ขึ้นฉ่ายฝรั่ง (Celery) ดีต่อสุขภาพมากแค่ไหน

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีผู้ที่ทดลองทำตามงานวิจัยในด้านประโยชน์ของขึ้นฉ่าย หรือ Celery โดยทำเป็นน้ำผักและดื่มในตอนเช้า ซึ่งพบว่าพวกเขานั้นมีน้ำหนักตัวลดลงและผิวพรรณก็เริ่มดีขึ้นอย่างชัดเจน กลายเป็นกระแสมาถึงเมืองไทย แม้กระนั้นเจ้าขึ้นฉ่ายฝรั่ง  ก็มีกลิ่นพอสมควรที่จะทำให้ผู้ดื่มรู้สึกดื่มไม่ลง สำหรับคนแรกที่เริ่มทานบางทีอาจจะต้องลองดื่มไปสักพักเพื่อปรับตัว

Celery 100 g ให้พลังงานเพียง 13 cal เท่านั้น และอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ มากมาย เช่น วิตามินเอ, บี1, บี2,  และบี6 อีกทั้งยังมีคุณประโยชน์ช่วยในเรื่องขับพิษออกมาจากร่างกาย พร้อมปรับสมดุลร่างกาย ลดการอักเสบ เพิ่มความชื้นให้ร่างกาย

ลักษณะของ Celery ฝรั่งจะอ้วนกว่าของไทยก็เลยทำให้ได้คุณประโยชน์มากยิ่งกว่า เนื่องจากคุณประโยชน์ได้จากตรงก้าน รวมทั้งการนำมาทำน้ำผักและดื่มในเวลาเช้าจะได้รับคุณค่าสูงที่สุด 

อย่างไรก็ตาม การทานขึ้นฉ่ายฝรั่งหรือ Celery ก็ยังมีข้อควรระวังอยู่ เช่น 

เด็กตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ถึง 6 ปี, ผู้สูงวัย และคนที่มีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็น โรคไต โรคหัวใจ บุคคลเหล่านี้ก็ไม่สมควรกินน้ำผักขึ้นฉ่ายฝรั่งในจำนวนมาก หรือแบบดื่มเข้มข้น เพราะขึ่นฉ่ายฝรั่งมีโพแทสเซียมสูง นำมาซึ่งการทำให้ไตทำงานมากขึ้น

ผู้ที่เป็นโรคความดันต่ำ ไม่แนะนำให้ดื่มนำผักหรือทานขึ้นฉ่ายฝรั่ง เนื่องจากความดันจะลดลงไปกว่านี้อีกอาจจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อร่างกายได้ ส่วนคนที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ก็ไม่สมควรกินน้ำผักขึ้นฉ่ายมากเกินความจำเป็น เพื่อหวังผลให้ความดันเลือดต่ำลง เนื่องมาจากการทำเช่นนี้จะช่วยควบคุมระดับความดันเลือดไว้แค่นั้น ไม่ได้มีประโยชน์หรือช่วยในการรักษาโรค

คนที่ป่วยด้วยโรคอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องทานยาบ่อยๆ ควรจะขอความเห็นจากหมอก่อน เพราะเหตุว่าขึ้นฉ่ายฝรั่งบางทีอาจมีผลต่อยาที่ใช้รักษาลักษณะของการป่วยนั้น

ระวังการทานขึ้นฉ่ายฝรั่งที่ใช้สารเคมีต่าง ๆ ในการปลูก ทั้งสารกำจัดศัตรูพืชที่ปนมา เนื่องมาจากน้ำผักขึ้นฉ่ายฝรั่งที่ดีต้องนำแบบสดใหม่มาใช้ ด้วยเหตุนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องล้างให้สะอาดก่อนนำมาทำ

ได้ทราบถึงคุณประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับจากขึ้นฉ่ายฝรั่งกันไปแล้ว ก็อย่าลืมทดลองทานกันบ้าง เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง แต่ว่าการทำขึ้นฉ่ายฝรั่งเพียงอย่างเดียวก็ไม่ดี อย่าลืมว่ามีผักผลไม้อีกหลายแบบที่มีคุณประโยชน์ดี ๆ ไม่แพ้กัน และหากทานแต่ผักผลไม้เพียงอย่างเดียวกไม่ได้ดีเสมอไป ร่างกายยังคงต้องการสารอาหารอื่น ๆ ดังนั้นจะต้องเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ จะดีต่อร่างกายมากที่สุด

 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    หวยฮานอยพารวย

เรื่องของหูดูแลไม่ยากขอแค่ใส่ใจ 

เราโตมากับคำว่าให้ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ รักษาสุขภาพ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การทำหุ่นให้ดูดี หรือไปโฟกัสที่ส่วนอื่นของร่างกาย น้อยคนมาที่จะหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพของช่องหู ซึ่งมีความสำคัญกับการใช้ชีวิตมากๆ เพราะถ้าวันหนึ่งที่เรามีปัญหาทางการได้ยิน รับรองได้เลยว่าเราจะชีวิตได้ยากมากขึ้นแน่นอน 

สำหรับการดูแลสุขภาพในช่องหูนั้น ทำไม่ยากแต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ เพราะช่องหูนั้นเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก หากได้รับความกระทบกระเทือนนิดหน่อย อาจส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาได้ ซึ่งระยะแรกที่ควรทำประจำคือการไม่ใช้ที่แคะหูแหลมๆ เพื่อเขี่ยให้ขี้หูออกมา เพราะหูอาจอักเสบ และรุนแรงถึงขั้นแก้วหูทะลุได้ หลังการสระผมเราควรใช้คัตตอนบัตปั่นหูอย่างเบามือ และควรไปหาหมอหูเพื่อเช็กสุขภาพของช่องหูเป็นประจำทุกปี 

เรื่องของขี้หูนั้น บางคนยังเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสิ่งที่เอาออกมาให้หมด อย่าให้เหลือเพราะกลัวว่าจะสกปกรก แต่ในความเป็นจริง ขี้หูในจำนวนที่ไม่เยอะเกินไป ช่วยป้องกันเศษฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอม ไม่ให้เข้าไปในรูหู ซึ่งอาจก่อให้เกิดการอักเสบหรือบาดเจ็บได้ง่าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ควรปล่อยให้ขี้หูเยอะเกินไป เพราะถ้าเยอะไปจะทำให้หูเราตึงได้ และถ้าหูตึงจากปริมาณขี้หูที่เยอะมากๆ จะต้องไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจรักษา 

การรักษาอาการขี้หูอุดตั้นนั้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการสะสมมาหลายปี จนขี้หูเกิดการแข็งตัวเกินกว่าที่จะแคะได้เอง ซึ่งต้องให้แพทย์จัดการ โดยขั้นตอนแรกแพทย์เฉพาะทางจะตรวจช่องหูโดยใช้เครื่องมือที่สามารถส่องเข้าไปดูได้ และใช้น้ำยาหยอดเข้าไปเพื่อละลายขี้หูให้นิ่มลง ซึ่งขั้นตอนนี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละเคส บางคนขี้หูอาจนิ่มและดูดได้เลยในครั้งแรก แต่บางคนต้องใช้ยาหยอดเองที่บ้านร่วมด้วย เพราะขี้หูแข็งและหนาเกินไปกว่าที่จะทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งตัวเราเองต้องให้ความร่วมมือกับคุณหมอด้วย เพราะจะมีผลให้การรักษาได้ผลมากที่สุด 

หลังจากที่ขี้หูนิ่มลงแล้ว บางรายขี้หูอาจจะไหลออกมาเองอย่าเพิ่งตกใจ เป็นปกติของการคายตัว และเป็นสัญญาณว่าขี้หูของคุณนิ่มจนสามารถให้แพทย์ดูดออกได้แล้ว และเมื่อดูดขี้หูออกหมดแล้ว จะมีวิธีสังเกตก็คือบ้านจะหมุน เราต้องรีบบอกแพทย์ และจะหยุดการรักษาในทันที ซึ่งอาการบ้านหมุนนั้นคือคำตอบว่าขี้หูออกไปหมดแล้ว 

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  หวยฮานอยพารวย